วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

น้ำยาบ้วนปากแบบทำเองอย่างง่ายๆ ไม่ต้องไปซื้อแพง


คราวที่แล้วนะครับได้พูดถึงเรื่องน้ำยาบ้วนปากนั้นสำคัญไฉนไปแล้ว คราวนี้ผมมีวิิธีทำน้ำยาบ้วนปาก
แบบง่ายๆไว้ใช้เอง ไม่ต้องง้อเงินซื้อยามข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ ข้าวแกงธรรมดาก็ปาเข้าไปสามสิบ
บาทเข้าไปแล้ว พิเศษสามสิบห้า เพิ่มไข่ดาวขอห้าบาท ไข่เจียวเจ็ดบาท สองบาทส่วนต่างขอเป็น
ค่าตอกไข่กะค่าน้ำปลาที่เยาะลงไป งกเนอะคนเรา ; P แต่ถ้าเป็นผม ผมคิดสิบบาท เพราะงกจะเอา
เงินไปซื้อน้ำยาบ้วนปาก Ha Ha ; P

มาเข้าเรื่องกันดีกว่าเจ้าของบล็อคชอบชวนออกทะเลอยู่เรื่อย อิอิ วิธีการก็ง่ายจริงๆ เอาเกลือป่นมาซัก
ประมาณ 1/2 - 1 ช้อนชา ละลายในน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว แล้วก็บ้วนปากสิครับ สะอาด ปลอดภัยแน่นอนครับ
อ่อ บางสูตรเค้าว่ามามีใส่ผงฟู 1 ช้อนชาเข้าไปด้วย แต่ต้องเพิ่มน้ำเป็น 1 ลิตร ใช้บ้วนก่อนและหลัง
อาหาร ทั้งสองสูตรนี้เหมาะมากกับผู้ป่วยที่มีอาการอักเสบเยื่อบุในปากเพราะไม่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วน
ผสมเหมือนที่ขายทั่วไปเลยไม่ทำให้ปวดแสบหรือคะคายเคืองเกินไปครับ และสูตรน้ำหนึ่งลิตรนี่ควรใช้
ให้หมดภายในหนึ่งวันนะครับ ไม่หมดก็เปลืองน้ำเปลืองเกลือเปลืองผงฟูดิครับ อิอิ

แค่นี้เราก็มีน้ำยาบ้วนปากไว้ใช้โดยไม่ต้องซ์้อแล้วล่ะครับ พอกันใหม่ครับ บาย

วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

น้ำยาบ้วนปากสำคัญแค่ไหน


เรามักจะเห็นโฆษณาน้ำยาบ้วนปากตามทีวีช่องต่างๆกันอยู่เป็นประจำนะครับบางคนก็ดู
ผ่านๆไม่สนใจอะไร บางคนก็ฟังสรรพคุณที่บอกในโฆษณาแล้วอาจจะสงสัยว่าเป็นจริง
ตามคำโฆษณาหรือเปล่า วันนี้ผมจะมาพูดเรื่องน้ำยาบ้วนปากกันครับ

จริงๆแล้วการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอาจจะเพียงพอแล้วสำหรับการทำความ
สะอาดฟันอย่างหมดจดนะครับ และทันตแพทย์ก็แนะนำให้แปรงฟันทุกครั้งหลังอาหาร
แต่บางทีที่เวลามันเร่งรีบ หรือว่าสถานที่ไม่อำนวยให้ทำความสะอาดด้วยวิธีแปรงฟันได้
การใช้วิธีบ้วนปากจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ ทำได้โดยกลั้วน้ำให้เคลื่อนที่ในปาก
ไปมาซ้ายขวาของแก้มนะครับ บางคนก็อาจจะนำน้ำยาบ้วนปากเข้ามาใช้แทนน้ำเปล่า
และเข้าใจว่ามันสามารถใช้ทำความสะอาดทดแทนการแปลงฟันได้ ซึ่งจริงๆแล้วนะครับ
น้ำยาบ้วนปากโดยทั่วไปจะมีส่วนผสมของสารที่ทำให้เกิดกลิ่นหอมและสารฆ่าเชื้อโรคเป็นหลัก
แต่ก็ลดเชื้อโรคได้ชั่วคราวเท่านั้น เพราะเชื้อโรคสามารถเกิดเพิ่มขึ้นมาใหม่ได้เพียงไม่กี่อึดใจ
เพราะฉะนั้นจุดประสงค์หลักของน้ำยาบ้วนปากคือทำให้ลมปากหอมสดชื่น ขจัดกลิ่นปาก(ถ้ามี)
ได้ชั่วคราว บางยี่ห้อจะมีฟลูออไรด์ผสมมาด้วยก็ช่วยป้องกันฟันผุได้ครับ แต่ก็ไม่ควรได้รับ
มากเกินไปนะครับ เพราะอาจมีผลเสียต่อฟันอาจทำให้ฟันตกกระได้ และควรหลีกเลี่ยง
น้ำยาบ้วนปากชนิดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือมีให้น้อยที่สุดเพื่อป้องกันเยื่อบุช่องปาก
เกิดอาการระคายเคือง ปวดแสบ ข้อเสียอีกอย่างราคาสูงมากครับ อันนี้ใครมีเงินซื้อไม่ว่ากัน ; P

ดังนั้นน้ำยาบ้วนไม่สามารถทดแทนการแปรงฟันได้ แต่เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษา
ช่องปากได้ อาจจะใช้ได้ในก็กรณีที่ไม่สามารถแปรงฟันได้หลังมื้ออาหารครับ และอีกกรณี
คืออาจจะใช้กับผู้ป่วยบางคนที่ไม่สามารถแปรงฟันตามปกติได้ เช่น ไปผ่าฟันคุดมา เป็นต้น
พบกันใหม่คราวหน้าครับ บาย

วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

อยากยิ้มมีฟันขาวเหมือนนางสาวไทยทำไง ฟอกสีฟันสิ

ช่วงนี้ฝนตกรถติดกันเหลือเกินครับ โดยเฉพาะตอนเย็นๆก่อนเลิกงาน
ตั้งเค้ามาเลยนะฟ้าเนี่ย พอก่อนจะเลิกงานซักห้านาที ตกกระหน่ำมาเลยครับ
คนเดินดินกินข้าวแกง(ภัตตาคารบ้างบางที)อย่างกระผมต้องนั่งรถเมล์
กลับบ้านปกติใช้เวลาชั่งโมงนิดๆกลับมาติดแหง่กอยู่บนถนน เกือบสาม
ชั่วโมงเสียเวลาจริงๆครับ พอฝนตกรถมันเลยติดมาก เข้าใจว่า ท่าน
ผู้ใช้รถราทั้งหลาย คงจะขับรถกันช้าลง เพื่อความปลอดภัยเพราะถนน
ลื่น ไหนจะวิสัยทัศน์ไม่ดีบ้าง แต่ดีแล้วครับเพื่อความปลอดภัยของชีวิตเรา
ครับ ชีวิตเรามีค่าเกินจะมาเสี่ยงอะไรแบบนี้ครับ และเมื่อวานก็เลย ฮ่าๆ
กลับแท็กซี่ทางลัดซะเลยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีนิดๆก็ถึงแล้วครับ
(แต่จ่ายตังไม่นิดเลย ; P)

พอขึ้นแท็กซี่ได้ ลุงคนขับแท๊กซี่ก็ชวนคุยบอกว่ารถติดมากๆ ฝนก็ตกหนัก
แล้วเมื่อกี้นี้ภรรยาของแกก็โทรมาบอกว่าให้ขับรถระวังหน่อยเป็นห่วง
สักพักนึงก็มีคนโทรเข้ามาหาแกอีก แล้วคุณลุงท่านก็ยิ้มไม่หุบ หัวเราะอย่าง
ดีใจมาก ผมก็ถามแกว่า อ้าว ทำไมไม่รับครับ ใครโทรมาเหรอ แกหันมายิ้ม
แล้วบอกว่ากิ๊กอ่ะ กิ๊กโทรมา คนนี้ไม่ค่อยโทรแกเลย โอ้ววววว อายุหกสิบกว่า
แล้วยังมีกิ๊ก เหอะๆๆๆ (แต่ก็คงเป็นแบบนั้นแหล่ะครับเพราะแกบอกว่า
มาขับรถเล่นๆ) แต่เอ๊ะแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องฟัน อ๋อ พอดีตอนที่คุณลุง
แกยิ้มฟันคุณลุงขาวมากๆๆๆๆ เลยทำให้คิดว่าแกทำอะไรมา ใส่ฟันปลอม
หรือไปฟอกสีฟันมากันนะ วันนี้ถือโอกาสเขียนเรื่องฟอกสีฟันล่ะกัน
(กว่าจะเข้าเรื่องได้ ; P)

ทำไมฟันเราไม่สีขาว? สาเหตุที่ทำให้ฟันเรามีสีเข้มไม่เป็นสีขาว
-ปัจจัยภายในของฟันเรา เช่น กินฟลูออไรด์มากไป, เกิดจากกิน
ยาปฏิชีวนะพวก Tetracycline, อายุมากขึ้น เคลือบฟันจะเบาบางลง
ทำให้เห็นเนื้อฟันที่มีสีเหลืองข้างใน, สีที่เกิดจากการผุ หรือเกิดจาก
วัสดุอุดฟันที่เป็นส่วนผสมของโลหะ หรือฟันที่ถูกกระทบหรือกระแทก
อย่างแรงแล้วแล้วกลายเป็นฟันเเสียไม่มีกระแสเลือดมาหล่อเลี้ยง
เป็นต้น

-ปัจจัยภายนอกฟัน ก็เป็นพวกคราบต่างๆที่ติดบนฟันทำความสะอาดไม่หมด
เช่น พวกคราบหินปูน คราบน้ำชากาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ คราบที่เกิดจาก
การสูบบุหรี่ เป็นต้น



วิธีการฟอกฟัน
-ฟอกสีฟันที่บ้านแบบซื้อมาฟอกเอง วิธีนี้ต้องระมัดระวังนะครับ อาจจะ
เกิดอันตรายได้เพราะบล๊อกอาจจะไม่มีขนาดที่พอดีกับฟันของเรา
อาจทำให้สารฟอกฟันหลุดออกมาทำอันตรายกับเนื้อเยื่อในปากเราได้



-ฟอกสีฟันที่บ้านแบบทันตแพทย์ดูแล คุณหมอจะทำการพิมพ์ปากคนไข้
เพื่อไปเป็นแบบสำหรับทำบล๊อกพลาสติกใส่สารฟอกฟันขาวให้กับคนไข้
แต่ละคนโดยเฉพาะ เวลากลับไปที่บ้านก็ใส่เจลฟอกสีฟันในบล๊อกแล้ว
เอาใส่ไว้ที่ฟันทั้งคืน 5 - 6 ชั่วโมง ส่วนความเข้มข้นของสารคุณหมอจะเป็น
ผู้พิจารณาอีกทีและมีการนัดมาวัดผล ทำแบบนี้อยู่ประมาณ 15 วัน
ฟันก็จะขาววิ้งเลยครับ

-ฟอกสีฟันโดยใช้แสงช่วยกระตุ้นปฏิกิริยาเคมีของสารหรือเจลฟอกสีฟัน
แสงที่ใช้ก็พวกอยู่ 3 อย่างคือ แสงเลเซอร์ แสงเย็น และแสงยูวี เป็นวิธีต้อง
ไปทำที่คลีนิคครับ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยไม่ต้องไปฟอกต่อที่บ้าน
ให้ลำบากเพราะเห็นผลทันที แต่อาจจะต้อง มาคลีนิคหลายครั้ง

แค่นี้เพื่อนๆ ก็จะมีฟันขาวสวยเหมือนนางสาวไทยแล้วล่ะครับ ส่วนราคา
ก็มีตั้งแต่ 4000 - 10000 บาทครับ ขึ้นอยู่กับแต่ละวิธี
พบกันคราวหน้าครับ บาย

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

คลิปสาธิตวิธีแปรงฟันที่ถูกต้องโดยสาวๆ ว้าว ว้าว

คราวที่แล้วชมคลิปวีดีโอสาธิตแปรงฟันกันไป คราวนี้ไปๆมาๆ ผมไปเจอวีดีโอสอนแปรงฟัน
อีกอันนึงดูแล้วน่าสนใจ สาธิตโดยสาวๆที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ฮามากครับ ผมดูไปขำไป
ฮาจนท้องแข็ง ฮาขี้แตกขี้แตน จะฮาอะไรกันนักหนา สาวๆอาจจะพูดเสียงในฟิล์มนิดนึง
แต่เอาความน่ารักมาหักล้างกันได้ครับ ผมให้อภัยได้ ; P

ปล.ตอนท้ายคลิปน้องเค้าพูดถึงวิธีใช้ไหมขัดฟันด้วยนะครับ ตั้งใจฟังด้วยนะครับ อย่ามัวแต่ขำนะ
เชิญชมนะบัดเดี๋ยวนี้ ชะ ชะ



ยังไงก็ขออนุญาติและขอขอบคุณเจ้าของวีดีโอเหมือนเดิม ขอบคุณมวากกกกกๆ ; P

วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

สาธิตวิธีแปรงฟันที่ถูกต้อง

เห็นผมเขียนบอกอยู่นั่นแหล่ะว่าแปรงฟันให้ถูกวิธี แล้วมันแปรงยังไงล่ะ
ก็เลยไปหาวีดีโอสาธิตสอนแปลงฟันมาให้ดูซะเลย จัดไปเลย




ยังไงก็ขออนุญาติและขอขอบคุณเจ้าของวีดีโอมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบคุณมากกกกก ; P

วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553

มารู้จักโรครำมะนาดหรือโรคปริทันต์กันเถอะ

รำมะนาด คืออะไรเหรอ ใช่ดนตรีไทยแบบมีคนรำไปด้วยตีระนาดไปด้วยรึเปล่า จะบ้าเรอะ ม่ายช่ายๆ - -!

โรครำมะนาดเนี่ย ตอนเด็กๆ ผมได้ยินโฆษณาจากวิทยุบ่อยๆ ได้แต่สงสัยว่ามันคืออะไร
คุ้นๆ ว่าคราบน้ำชากาแฟนี่แหล่ะที่ทำให้มันเป็นรำมะนาด ไมรู้ว่าจริงรึเปล่ากับคำโฆษณา
วันนี้เลยหยิบยกเรื่องโรคนี้มาเขียนล่ะกันครับ

โรครำมะนาด หรือในอีกชื่อหนึ่งคือโรคปริทันต์ เป็นระยะอาการในช่วงหนึ่งของ
โรคเหงือกครับซึ่งโรคเหงือก ถ้าเราไม่แปรงฟันหรือรักษาความสะอาดอย่างไม่ถูกวิธี
ก็จะเกิดจากการสะสมของคราบอาหารหรือคราบจุลินทรีย์ (dental plague)
บนฟันแถวๆ ขอบๆเหงือก เป็นเวลานานๆ แล้วเชื้อโรคพวกนี้ได้สร้างสารพิษออกมา
ทำลายเหงือกและฟัน และขอบเหงือกจะเริ่มอักเสบนิดๆ พอคราบพลัคสะสมเรื่อยๆ
ลึกไปถึงใต้เหงือกะทำให้เหงือกอับเสบรุนแรง อาจจะเกิดหินปูนร่วมด้วย ถ้าปล่อยไว้
เรื่อยๆ จะมีกลิ่นปากเหงือกและกระดูกรองฟันก็ถูกทำลาย เหงือกร่นจนเห็นฟันยาวขึ้น
มีการเคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิม ฟันจะเริ่มคลอนและโยกมีเลือดออกบางทีก็มีหนอง
ช่วงนี้แหล่ะครับที่เรียกว่าโรครำมะนาดหรือโรคปริทันต์(ชื่อฟังดูเท่ห์อยู่เหมือนกัน
แต่ถ้าให้เป็นคงไม่เอา ; P) ท้ายที่สุดก็ต้องไปให้คุณหมอถอนออกล่ะครับ


การรักษา ก็อย่างที่บอกไปถ้าละเลยจนรักษาไม่ได้ก็ต้องถอนออกไป คนที่
เป็นมักจะไม่รู้สึกเจ็บจนเกิดการละเลยทำให้อาการรุนแรงในภายหลัง แต่ถ้ารู้ตัวก่อน
ก็อาจจะไปหาทันตแพทย์ ให้ทำการขูดหินปูนออก และอาจมีการเกลารากฟันร่วมด้วย
เพื่อให้เหงือกที่ร่นกลับมายึดกับตัวฟันได้เหมือนเดิม ถ้าพบว่ามีการละลายของกระดูก
รองฟันก็ต้องใช้วิธีผ่าตัดเหงือกด้วย

การป้องกัน ก็เป็นที่รู้ๆกันนะครับว่าต้องแปรงฟันให้สะอาดและถูกวิธี เพราะแปรงแรง
ไปอาจจะทำให้เป็นได้ด้วย แนะนำให้ให้ใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอด้วยนะครับ
ที่ขาดไม่ได้คือไปหาทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือนด้วยนะครับ รับรองว่าจะรู้ทันโรคฟันๆ
ทั้งหลายก่อนจะสายไปแน่นอนครับ

ด้วยความปรารถนาดีจากคนที่เคยมีแฟนเป็นหมอฟัน วิ้วววววว ; P

วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

บอกเล่าเรื่องอุดฟัน

ถ้าพูดถึงเรื่องอุดฟันผมว่าหลายๆคนก็น่าจะเคยอุดหรือคุ้นเคยกันดีเหมือนกับการถอนฟัน
(ไม่ได้อยากจะคุ้นเคยซักหน่อย แต่มันจำเป็นต้องทำ ; P) แต่ก็หลายคนอีกนั่นแหล่ะ
ที่สงสัยกันว่าเค้าอุดฟันกันยังไง คุณหมอฟันเค้าเอาอะไรมาอุดให้เรากันนะ
สีเงินๆที่อุดลงไปมันจะใช่เงินแท้รึป่าวนะ วันนี้เลย เอาเรื่องอุดฟันมาเขียนล่ะกันครับ

ทำไมต้องอุดฟัน? (เอ่อ แล้วเราจะปล่อยให้มันเป็นรู แล้วผุไปเรื่อยๆ ทำไมล่ะครับ)
การอุดฟันทันตแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะรักษาด้วยวิธีอุดฟันหรือไม่ โดยฟันที่
จะทำการอุดฟันนั้น มีสาเหตุหลายประการอยู่เหมือนกันครับ เช่น มีฟันผุเนื่องจากแปลงฟัน
ไม่สะอาด ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนๆของฟัน คอฟัน ส่วนบนของฟัน หรืออาจเกิดจากฟันได้
รับการกระทบกระทั่งจากพวกอุบัติเหตุทั้งหลาย มีสภาพบิ่น มีการแตกหักของฟัน
การอุดฟันก็จะไปชดเชยส่วนที่ผุหรือบิ่นของฟันนั่นล่ะครับ เพื่อให้มีรูปร่างตามปกติ
ของฟันดังเดิม ให้กลับมาใช้ได้ดีเหมือนเดิม อีกทั้งเพื่อความสวยงาม ความหล่อเหลา
(อันสุดท้ายนี้ขาดไม่ได้เด็ดขาด ; P)

วิธีการอุดฟันนั้น คุณหมอฟันจะทำการกรอฟันส่วนที่ผุออกไป แล้วทำการอุดด้วยวัสดุเฉพาะ
แล้วเกลี่ยวัสดุให้เป็นรูปร่างฟันปกติให้มากที่สุด
วัสดุอุดฟันโดยทั่วไปจะมี 2 แบบหลักๆ คือ

-อะมัลกัม มีส่วนผสมของเงิน(เงินจริงๆด้วย) ดีบุก เป็นส่วนใหญ่ รองลงมาคือ ทองแดง
สังกะสี และปรอท (ปรอทในอะมัลกัม ไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใดครับ เพราะนำมา
ทำปฏิกิริยากับโลหะอื่นๆ ในอมัลกัมแล้ว มีผลให้กลายเป็นสารเฉื่อย และผ่านการทดสอบมานักต่อนักว่าปลอดภัย) เวลาอุดเสร็จ จะมองเห็นเป็นสีเงินๆ นั่นล่ะครับ มักใช้อุดฟันบริเวณ
ที่ไม่ต้องการความสวยงาม หรือฟันที่มีหน้าที่บดเคี้ยวอาหารเช่น ฟันกราม เพราะมีความ
แข็งแรง ทนทายาดเลยว่างั้น เวลาอุดคุณหมอมักถามว่าเวลาประกบฟันบน-ล่าง
รู้สึกว่าที่บริเวณที่อุดมันเข้าที่รึเปล่า ถ้าสูงไปคุณหมอก็จะจัดแต่งจนกว่าจะเข้าที่
เหมือนที่เราคุ้นเคยปกติ ผู้ป่วยที่อุดด้วยวัสดุชนิดนี้คุณหมอมักจะห้ามเคี้ยวอาหาร
ด้วยฟันซี่ที่อุดหลังจากรักษาเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพราะเป็นเวลาที่วัสดุจะแข็งตัวเต็มที่


-คอมโพสิท เป็นวัสดุจำพวกพลาสติก เรซิน จุดเด่นเป็นวัสดุอุดฟันที่ให้สีเหมือน
สีฟันธรรมชาติ ใช้อุดฟันหน้าเพื่อความสวยงาม แต่ปัจจุบันมีความแข็งแรงพอที่
จะสามารถอุดฟันบริเวณอื่นที่ใช้ในการบดเคี้ยวได้ ราคาก็แพงขึ้นตามข้อดีคือแข็งแรง
และสวยงามครับ เวลาอุดคุณหมอจะฉายแสงมายังฟันที่อุดเพราะว่าวัสดุชนิดนี้ใช้แสง
เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการแข็งตัวครับ





วัสดุทั้งสองอย่างด้านบนนี้เป็นวัสดุที่นิยมมากที่สุด อายุการใช้งานราวๆ 10 ปี
นอกจากนี้ยังมีวัสดุอื่นๆ อีกที่สามารถนำมาใช้ได้ แต่ไม่เป็นที่นิยมกัน คือ
กลาสไอโอโนเมอร์ มีความสามารถที่โดดเด่น คือ สามารถปล่อยสารฟลูออไรด์
ออกมาเพื่อช่วยเรื่องป้องกันฟันผุได้ ว้าวๆ แต่ข้อเสียคือความทนทาน สู้วัสดุ
ชนิดอื่นๆไม่ได้ มีผลต่อเนื้อเยื่อในช่องปากอีกด้วย ตัวถัดก็คือทอง
(หลายคนคงเห็นคนแก่มีฟันทองกันแต่นั้นเอามาหุ้มนะครับ ไม่ใช่อุด
มักใช้แสดงความร่ำรวย ; P) ว่ากันว่าทีมีความทนทานอยู่ได้ถึง20 ปี จึงเป็น
วัสดุอุดฟันที่ดีที่สุด แต่ข้อเสียคือแพงนั่นเอง Ha Ha

โดยส่วนตัว ผมก็เคยอุดฟันก้วยอะมัลกัมและคอมโพสิทครับ โดยเฉพาะฟันหน้านี่เป็น
รูโบ๋ใหญ่มากไม่กล้ายิ้มเลย จะจีบสาวก็ไม่ได้จนทนไม่ไหว เลยไปจัดการอุดซะ
กลับมาหล่อเหมือนเดิมแต่ก็ยังจีบสาวไม่ติดอยู่ดี Ha Ha แต่ยังไงก็แล้วแต่อย่าเป็น
แบบผมเลยครับ ดูแลฟันของเราให้ดีๆ ไม่ต้องมารักษาเหมือนผม
สุดท้ายขอฝากไว้ "ฟันไม่ผุเป็นลาภก้อนโต" เอ๊ะ ยังไง ^ ^